คดีหย่า-ฟ้องชู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530

ประเด็นสำคัญ

  • การมีชู้สาว คู่สมรสสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ซึ่งเป็นการเสียหายแก่เชื่อเสียงและเกียรติของคู่สมรสฝ่ายที่ได้รับความเสียหาย
  • การฟ้องชู้ไม่จำเป็นต้องฟ้องหย่ากับคู่สมรสก่อน สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้จากชู้ได้เลย ตามฐานะของชู้นั้น

สรุปย่อสั้น

การล่วงเกินในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนนี้มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้และค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ด้วย

ที่มา : http://deka.supremecourt.or.th

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522

ประเด็นสำคัญ

  • คู่สมรสจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรสของตนไปในทำนองชู้สาวหรือเรียกจากผู้ที่เปิดเผยแสดงตนว่ามีความสัมพันธ์กับคู่สมรสในทำนองชู้สาวก็ได้
  • การนอนกอดกันกับคู่สมรสของผู้อื่นหรือหรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณี เพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว ถือว่าได้ล่วงเกินคู่สมรสผู้อื่นไปในทำนองชู้สาวแล้ว

สรุปย่อสั้น

คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งการกระทำของจำเลยเฉพาะการนอนกอดกับภริยาโจทก์ แต่ที่ว่าจำเลยยังลักลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา จนในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยนั้น ฟ้องโจทก์ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดพอที่จะถือเป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา จึงต้องถือว่าโจทก์มุ่งประสงค์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยสำหรับการที่จำเลยไปนอนกอดกันกับภริยาโจทก์เป็นหลัก

การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523วรรคสอง (ที่ได้ตรวจชำระใหม่)(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)

ที่มา : http://deka.supremecourt.or.th

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3483/2528

ประเด็นสำคัญ

  • แม้ว่าคู่สมรสอีกฝ่ายจะยินยอมสมัครใจร่วมประเวณีกับชู้ ก็ถือว่าจำเลยกระทำล่วงเกิน ชู้ต้องรับผิดจ่ายค่าทดแทนให้คู่สมรสอีกฝ่าย
  • อีกทั้งคู่สมรสฝ่ายที่ฟ้องยังได้รับความเสื่อมเสียทั้งด้านจิตใจเกียรติยศและชื่อเสียงที่ไม่สามารถคิดเป็นราคาเงินได้ ค่าทนแทนนั้นจึงจะเป็นไปตามพฤติการณ์แห่งคดี

สรุปย่อสั้น

การที่จำเลยพา บ.ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณี แม้บ.จะยินยอมสมัครใจร่วมประเวณี กับจำเลยก็ถือว่าจำเลยกระทำล่วงเกิน ภริยาโจทก์ไปในทำนอง ชู้สาวจำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนให้โจทก์ และการที่จำเลยพาภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณีดังกล่าวย่อมทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีได้รับความเสื่อมเสียทั้งด้านจิตใจเกียรติยศและชื่อเสียง ซึ่งไม่อาจคิดเป็นราคาเงินได้การกำหนดค่าทดแทนให้เพียงใดย่อมแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดี

ที่มา : http://deka.supremecourt.or.th

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2538

คำสำคัญ

  • ฟ้องชู้
  • การฟ้องหย่าเพื่อเรียกค่าทดแทน
  • ประมวลแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523, มาตรา 1523 วรรคที่ 2

สรุปย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่ามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวตลอดมาจนถึงวันฟ้องลักษณะการกระทำของจำเลยได้กระทำต่อเนื่องกันมายังมิได้หยุดการกระทำละเมิดของจำเลยได้เกิดขึ้นและมีอยู่ในขณะฟ้องคดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ฎีกาจำเลยที่ว่าการฟ้องเรียกค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 จะต้องฟ้องหย่าเสียก่อนจึงจะเรียกค่าทดแทนได้นั้นเป็นฎีกาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การจำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ การเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสองไม่มีเงื่อนไขว่าภริยาต้องฟ้องหย่าสามีเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงนั้นได้โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

ที่มา : http://deka.supremecourt.or.th

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6051/2540

คำสำคัญ

  • การจดทะเบียนสมรสในขณะที่สมรสอยู่
  • จดทะเบียนสมรสที่ต่างประเทศสามารถฟ้องชู้ในประเทศไทยได้
  • ประมวลแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1459 วรรคหนึ่ง, มาตรา 1452, มาตรา 1496

สรุปย่อสั้น

เมื่อการสมรสระหว่างโจทก์และ ส. ผู้ตายเป็นการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐเนววาดา ประเทศสหรัฐอเมริกาและชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1459 วรรคหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับ ส. สามีโจทก์ตามกฎหมายไทยอีก จึงเป็นการจดทะเบียนในขณะที่ ส.มีคู่สมรสอยู่ก่อนแล้ว เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1452 ตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1496 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ส.

ที่มา : http://deka.supremecourt.or.th

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *